แม่ค้าก็หวั่น ลูกค้าก็ระแวง เมื่อมิจฉาชีพพากันแฝงตัวมาคอยหาเหยื่อบนโลกออนไลน์ โดยมาพร้อมกับกลโกงอันแพรวพราวตีเนียนหลอกให้คนตกเป็นเหยื่อแบบไม่รู้ตัว และนี่คือพฤติกรรมที่กำลังอาละวาดหนักที่ทุกคนควรรู้เท่าทัน!
•ล่าคนชอบเผือกด้วยประเด็นดัง
มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะนำคลิปเด็ด ข่าวดังที่กำลังเป็นประเด็นร้อนๆ โดยแนบลิงก์ที่แฝงไวรัสหรือเว็บพนันไว้มาแปะต่อ เพื่อล่อให้คนที่กำลังสนใจในเรื่องนั้นๆ ทำการคลิกแล้วดูดข้อมูลหรือหลอกให้โอนเงิน
•ล่อใจด้วยสินค้าราคาถูกเกินจริง
เพราะรู้ว่าคนชอบของถูก เพจปลอมจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อนำสินค้ามาขายแบบถูกๆ ถ้าหลงกลโอนเงินไปมักไม่ได้สินค้า หรือได้มาก็ไม่ตรงปก
•ลวงให้เชื่อด้วยงานง่ายรายได้ดี
เป็นการหลอกเหยื่อที่กำลังมองหางานพิเศษรายได้ดี โดยใช้อุบายต่างๆ เช่น ให้ปั่นยอดวิว ดูคลิปวิดีโอ ทำสต็อกสินค้า ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมก่อน และจะมีขั้นตอนให้โอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
•แสร้งเป็นตัวกลางรับหิ้วสินค้า
รับบทซัพพลายเออร์ Dropshipping ซื้อ-ขายสินค้าแต่ไม่มีตัวตนอยู่จริง ฉวยโอกาสให้เหยื่อโอนเงินล่วงหน้าให้
•สวมบทเป็น Influencers คนดี
มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะปลอมตัวเป็น Influencers ซีอีโอคนเก่ง กูรู หรือเจ้าของธุรกิจ แล้วลงคลิปชี้ทางรวยลัด รวยเร็ว รวยได้แต่เด็ก เพื่อสร้างสาวก หลอกล่อให้เหยื่อมาติดกับซื้อของ โอนเงิน หรือทำงานที่ไม่มีอยู่จริง
Checklist ยืนยันตัวตน…ดับฝันมิจฉาชีพ
พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คนไหนไม่อยากตกเป็นร้านต้องสงสัยหรือเข้าข่ายว่าเป็น “ร้านค้าปลอม” จนลูกค้าหาย หลายคนไม่กล้าซื้อ รีบมาดู Checklist พิสูจน์ตัวตน เพื่อโชว์ให้คนรู้ว่า นี่คือ “ร้านค้าตัวจริง” กัน
•หน้าร้านต้องดูดี
ตกแต่งหน้าเพจหรือหน้าเว็บไซต์ให้ดูดี มีโลโก้ รูปภาพ ตัวหนังสือ และสีสันที่ดูสวยงาม ที่สำคัญไม่ควรปล่อยให้รูป Profile หรือ Cover เป็นพื้นที่ว่างหรือใช้รูปที่ไม่เข้ากันกับร้าน
•คอนเทนต์ต้องอัปเดตเสมอ
สิ่งที่จะทำให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวและการมีตัวตนของร้านได้คือ การหมั่นโพสต์คอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ อาจจะเป็นการแชร์เรื่องราวของแบรนด์ เคล็ดลับ How- to คำแนะนำต่างๆ คลิปวิดีโอ หรือโปรโมชันก็ได้
•ข้อมูลติดต่อต้องมี
นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับร้าน ทั้งชื่อร้าน สินค้าที่ขาย ปีที่ก่อตั้ง หรือวันเวลาเปิด-ปิดแล้ว ช่องทางการติดต่อคือ สิ่งที่ควรระบุให้ชัดเจน เช่น ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ LINE รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่มี ซึ่งทั้งหมดควรติดต่อได้จริง
•รายละเอียดสินค้าต้องครบถ้วน
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การให้รายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อ สี ขนาด ราคา เงื่อนไขการจัดส่ง ควรระบุให้ชัดเจน และควรใช้ภาพถ่ายจากสินค้าจริง เพื่อแสดงให้เห็นว่าร้านมีสินค้าจริง และไม่ได้ไป Copy รูปจากที่อื่นมา
•เครื่องหมายรับรองต้องมา
เครื่องหมาย Verified Badge อีกสิ่งที่ช่วยยืนยันตัวตน สร้างความน่าเชื่อถือ ป้องกันการถูกแอบอ้างจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ร้านค้าตัวจริงได้ การจะได้มาอาจเป็นการทำตามกฎ หรือจ่ายเงินซื้อ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแพลตฟอร์ม
•รีวิวจากผู้ใช้งานจริงต้องเห็น
หมัดเด็ดที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าได้คือ การมีรีวิวสินค้าจากผู้ใช้จริงมาแสดงให้เห็นบนหน้าเพจหรือหน้าเว็บ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นต่อสินค้าหรือบริการของทางร้าน และการให้คะแนนความพึงพอใจ
•ชำระเงินต้องง่ายและสะดวก
เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกตะขิดตะขวงใจ ทางร้านควรระบุวิธีการชำระเงินให้ชัดเจน เลือกระบบที่จ่ายได้ง่ายและสะดวก พร้อมให้ข้อมูลการรับประกัน เปลี่ยน หรือคืนสินค้า เพื่อให้ลูกค้าใช้ประกอบในการตัดสินใจซื้อ
ทำตามนี้ได้ บอกเลยว่านอกจากจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ร้านค้าได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้ากล้าซื้อและไม่กลัวว่าจะถูกร้านหลอกหรือเป็นร้านปลอมได้อย่างแน่นอน
————————————————————————————————————————————
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เคล็ดลับ “5 ขอ” ฉบับคนขายออนไลน์ แก้ปัญหาละเมิดข้อมูลลูกค้า
- เจาะลึกพฤติกรรมนักช้อป รีวิวแบบไหน? ได้ใจลูกค้าแต่ละ GEN
- ขายของเด็ก VS เด็กขายของ 2 มุมของบนโลก E-COMMERCE ที่หลายคนไม่รู้!
- 3 เทรนด์โลจิสติกส์ เปลี่ยนอนาคตการขนส่ง
- รวม 5 ไอเทมสายมูสุดฮิต! คนขายรับทรัพย์ คนซื้อรับโชค
- แชร์พิกัด 5 สถานที่ขอพร แม่ค้าออนไลน์ไหว้แล้วรวย!
- รวม “คำ” สุดปัง ตัวช่วยปิดการขายได้จริง
- เปิดโผสินค้าไทยสุดเด็ด! ขายดีใน 4 ตลาดต่างแดน
- คำต้องห้าม TIKTOK กฎเหล็กไลฟ์ขายของ ไม่โดนแบน ไม่เสี่ยงปลิว
- ชี้เป้า! 3 กลุ่มสินค้าขายดีติดลมบนแห่งโลกอีคอมเมิร์ซ
